ทำสัญญาอย่างไรให้สบายใจกับทุกฝ่าย?
การทำสัญญาคืออะไร?
“การทำสัญญา” คือ การทำนิติกรรมอย่างหนึ่งในสิ่งที่มีผลบังคับใช้ทางกฎหมาย บางกรณีหากมีพิพาทขัดแย้งระหว่างคู่สัญญาเกิดขึ้น ศาลจะไม่ดูหลักฐานอื่นใดเลยนอกจากสัญญาเท่านั้น ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ประกอบการ หรือ Startup ควรที่จะทำสัญญาให้ละเอียดรัดกุม และทิ้งช่องว่างทางกฎหมายให้น้อยที่สุด จนมีคำกล่าวในกลุ่มนักกฎหมายว่า การทำสัญญา “ให้มองโลกในแง่ร้ายเสมอ” นั่นก็เพื่อให้ทำสัญญาทางกฎหมายอย่างรอบคอบ ระมัดระวัง และไม่ประมาท นั่นเอง การทำสัญญา มีองค์ประกอบที่สำคัญหลัก ๆ ดังนี้
- วัตถุประสงค์ของการทำสัญญาว่า ต้องการทำอะไร ควรระบุให้ชัดเจน
- ชื่อที่อยู่ของคู่สัญญา เพื่อประโยชน์ในการติดตามบังคับให้ปฎิบัติตามสัญญา
- ความสามารถของคู่สัญญาที่จะทำสัญญา หากเป็นผู้เยาว์ต้องให้ผู้แทนโดยชอบธรรม คือ บิดามารดาของผู้เยาว์ให้ความยินยอมก่อน เป็นต้น
- ทำสัญญาถูกต้องตามแบบหรือไม่ เช่น ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ คือ ที่ดิน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้างต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน กู้ยืมเงินต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ เป็นต้น
- ความยินยอมของคู่สมรส หากเป็นการทำสัญญาเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ เช่น ซื้อขาย แลกเปลี่ยน ให้ ขายฝาก เช่าซื้อ จำนอง ก่อให้เกิดภาระจำยอม สิทธิเก็บกิน หรือนำเงินสินสมรสไปให้กู้ ต้องให้คู่สมรสของคู่สัญญาให้ความยินยอมด้วย มิฉะนั้น คู่สมรสอาจฟ้องเพิกถอนการทำสัญญาในภายหลังได้
- ค่าเสียหาย หรือเบี้ยปรับ เมื่อมีการผิดสัญญา ควรระบุให้ชัดเจนในการทำสัญญา
- ค่าธรรมเนียม ภาษี ฝ่ายใดจะเป็นผู้รับผิดชอบ หรือให้รับผิดชอบร่วมกัน
- ลายมือชื่อคู่สัญญา หากพิมพ์ลายพิมพ์นิ้วมือต้องมีพยานรับรอง 2 คน จึงจะบังคับได้ การทำสัญญา
- พยานที่รู้เห็นการทำสัญญา แม้กฎหมายจะไม่บังคับให้ต้องมีพยาน แต่ก็ควรมีพยานไว้เพื่อเบิกความยืนยันการทำสัญญา เมื่อมีกรณีพิพาทเกิดขึ้น
เครดิตข้อมูลจาก ท่านรุ่งโรจน์ รื่นเริงวงศ์ ผู้พิพากษาศาลฎีกา