เครื่องหมายการค้า ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร ต่างกันอย่างไร?
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ทั้งเครื่องหมายการค้า ลิขสิทธิ์ และสิทธิบัตร คือ “ทรัพย์สินทางปัญญา” ซี่งหมายถึง ผลงานอันเกิดจากการประดิษฐ์ คิดค้น หรือการสร้างสรรค์ของมนุษย์ ซึ่งเน้นที่ผลผลิตของสติปัญญาและความชำนาญ โดยไม่จำกัดชนิดของการสร้างสรรค์หรือวิธีการแสดงออกในรูปแบบของสิ่งที่จับต้องได้ เช่น สินค้าต่างๆ หรือในรูปแบบของสิ่งของที่จับต้องไม่ได้ เช่น บริการแนวคิดในการดำเนินธุรกิจ กรรมวิธีการผลิตในอุตสาหกรรม เป็นต้น
เครื่องหมายการค้า (Trademark)
คือ ภาพถ่าย ภาพวาด ภาพประดิษฐ์ ตรา ชื่อ คำ ข้อความ ตัวหนังสือ ตัวเลข ลายมือชื่อ กลุ่มของสี รูปร่างหรือรูปทรงของวัตถุ เสียง ที่ใช้กับสินค้าหรือบริการ เพื่อแสดงให้เห็นว่าสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้านั้นแตกต่างกับสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น
ลิขสิทธิ์ (Copyright)
คือ สิทธิแต่เพียงผู้เดียวของเจ้าของลิขสิทธิ์ที่จะกระทำการใดๆ กับงานที่ผู้สร้างสรรค์ได้ทำขึ้น
ไม่ว่างานดังกล่าวจะแสดงออกในรูปแบบอย่างใด โดยประเภทของงานอันมีลิขสิทธิ์ที่กฎหมายกำหนดไว้ ได้แก่
1.1 วรรณกรรม (รวมถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์)
1.2 นาฏกรรม
1.3 ศิลปกรรม
1.4 ดนตรีกรรม
1.5 โสตทัศนวัสดุ
1.6 ภาพยนตร์
1.7 สิ่งบันทึกเสียง
1.8 งานแพร่เสียงแพร่ภาพ
1.9 งานอื่นใดในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
นอกจากนี้กฎหมายลิขสิทธิ์ยังให้ความคุ้มครองถึงสิทธิของนักแสดงด้วย ทั้งนี้การคุ้มครองลิขสิทธิ์ไม่
ครอบคลุมถึงความคิด ขั้นตอน กรรมวิธี ระบบ วิธีใช้ วิธีทำงาน แนวความคิด หลักการ การค้นพบ ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์หรือคณิตศาสตร์
สิทธิบัตร (Patent)
เป็นการคุ้มครองการคิดค้นสร้างสรรค์ที่เกี่ยวกับการประดิษฐ์ หรือ การออกแบบผลิตภัณฑ์ ที่มีลักษณะตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ สิทธิบัตรการประดิษฐ์, อนุสิทธิบัตร และสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์
โดยผู้ทรงสิทธิบัตรการประดิษฐ์ ผู้ทรงอนุสิทธิบัตร หรือผู้ทรงสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ มีสิทธิเด็ดขาดหรือสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการแสวงหาผลประโยชน์จากการประดิษฐ์หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ได้รับสิทธิบัตร หรืออนุสิทธิบัตรนั้น ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
การคุ้มครองตามกฎหมาย
ในส่วนของการได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย งานลิขสิทธิ์ จะได้รับความคุ้มครองทันทีเมื่อมีการสร้างขึ้นมา โดยไม่จำเป็นต้องนำไปจดทะเบียน อย่างไรก็ตามหากเราต้องการหลักฐานยืนยันว่าเราเป็นคนสร้างสรรค์งานนั้นขึ้นมา ก็สามารถดำเนินการจดแจ้งลิขสิทธิ์ต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อให้ทางกรมฯ ออกหลักฐานยืนยันให้เราค่ะ
ต่างจากเครื่องหมายการค้ากับสิทธิบัตร ที่เราจำเป็นต้องจดทะเบียนก่อนจึงจะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย โดยยึดหลักที่ว่าใครจดทะเบียนก่อนก็ได้มีสิทธิ์ก่อน
มาถึงตรงนี้ หลายคนอาจเกิดความสงสัยว่า โลโก้แบรนด์ ที่เราออกแบบขึ้นมาสามารถจดเป็นลิขสิทธิ์หรือสิทธิบัตรได้หรือไม่ แอดก็ขอตอบตรงนี้เลยว่า โลโก้แบรนด์จะไม่สามารถจดสิทธิบัตรหรือลิขสิทธิ์ได้ค่ะเพราะถึงแม้ว่าโลโก้นั้นจะเป็นภาพวาดหรือลายกราฟิกซึ่งน่าจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ แต่วัตถุประสงค์นั้นมีไว้เพื่อใช้เป็นเครื่องหมายการค้า ดังนั้นก็ต้องจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าจึงจะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายค่ะ
กล่าวโดยสรุป คือ ถ้าเรามีโลโก้แบรนด์สินค้าและใช้เป็นเครื่องหมายการค้า ก็ต้องจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า แต่ถ้าเรามีงานประดิษฐ์ งานวิจัยหรืองานออกแบบผลิตภัณฑ์ ก็ให้จดสิทธิบัตร แต่หากเรามีงานวรรณกรรม วาดถ่าย ภาพวาด หรืองานศิลปะอื่นๆ ก็แนะนำให้จดแจ้งลิขสิทธิ์ค่ะ